รหัสทัวร์ :: 14PN461
ทัวร์ปีนัง-อีโปห์-คาเมร่อน-มะละกา
เที่ยว ชม art street
กำหนดการเดินทาง
เดินทางโดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย
|
ทัวร์กรุ๊ปเหมา ไปเที่ยวมาเลเซีย เราชำนาญมาอย่างยาวนาน หากท่านคิดจะใช้ทัวร์ไปมาเลเซีย ของขอราคาเราไปเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ นะครับ ไม่จองไม่เป็นรัย เราจริงใจที่จะให้ของมูลท่องเที่ยวมาเลเซีย จ้า |
สอบทางทางไลน์นี้ได้จ้า ID :: @teawsanooktour
|
กำหนดการเดินทาง :: คณะส่วนตัว เราเสนอราราให้อีกครั้ง ตั้งแต่ 8 ท่านขึ้นไป |
วันแรก |
กรุงเทพฯ-ปีนัง- penang art street-Penang-วัดซัมโปห์ตง-เมืองอีโปห์-WEIL HOTEL IPOH |
|
คณะเดินทางพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง ( กรุณานำ Passport ไปแสดงด้วย ) ซึ่งมีทีมงานคอยอำนวยความสะดวก
|
|
หมายเหตุ :: หากลูกค้ามีตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว หรือ จะซื้อตั๋วเครื่องบินเองก็ได้ โดยสามารถบินมาลงที่ หาดใหญ่ หรือ ปีนังก็ได้ครับ (โปรสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้ง)
|
10.50 น. |
ออกเดินทางสู่ประเทศมาเลเชีย สนามบินปีนัง โดยการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 403 |
13.35 น. |
เดินทางถึงสนามบินปีนัง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ประเทศมาเลเซีย จากนั้นเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถบัสปรับอากาศ ซึ่งมีทีมงานคอยอำนวยความสะดวก |
บ่าย |
นำท่านชมอาคารบ้านเรือนของชาวปีนังซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมี.ประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับชาติตะวันตก เกาะปีนังจึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันดี จึงได้ขนานนามให้เป็น ไข่มุกแห่งตะวันออก
|
|
|
นำท่านเที่ยวชม "ปีนัง สตรีท อาร์ท" ชมภาพวาด 3 มิติ (3D) ซึ่งสามารถพบเห็นภาพวาดต่างๆได้ตามกำแพงข้างถนน ผนังบ้านและตึก ประตู หน้าต่าง และอื่นๆ โดยภาพวาดส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับอิริยาบถต่างๆของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพเด็กปั่นจักรยาน ภาพเด็กผู้หญิงกาลังผลักดันตัวเองขึ้นไปบนหน้าต่างสองบาน ภาพเด็กกาลังปีนเก้าอี้เพื่อหยิบสิ่งของ และอื่นๆอีกเป็นจานวนมาก พร้อมถ่ายภาพเป็นความทรงจำ เพลิดเพลินกับความสวยงามของเมืองมรดกโลกแห่งปีนังกับศิลปะระดับโลกใน ย่าน penang art street
เดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองอีโปห์ข้ามสะพานปีนังแห่งที่ 2 เดินทางผ่านรัฐปาหังเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามระหว่างเส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ชมความเป็นอยู่ของชาวมาเลเซีย การปลูกพืชเศรษฐกิจตลอดทั้งสองข้างทาง
|
|
|
นำท่านเที่ยวชม วัดซัมโปห์ตง (Sampoh Tong) คือ วัดในถ้ำที่มีชื่อเสียงในเมืองกูนังราปัต กล่าวกันว่าเป็นวัดในถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ภายในวัดมีงานศิลปะที่งดงามมากมาย รวมทั้ง พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ท่ามกลางหินงอกหินย้อย
|
|
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ (1) ณ ร้านอาหาร |
จากนั้น |
เช็คอินเข้าสู่โรงแรม WEIL HOTEL IPOH หรือ เทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์
|
วันที่สอง |
ชม IPOH OLD TOWN STREET- IPOH TOWN HALL - Kellies Castle - คาเมรอน ไฮแลนด์-สวนลาเวนเดอร์-ชมฟาร์มตะบองเพชร-EQOUTORAIL HOTEL คาเมร่อนไฮแลนด์ |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า(2) ณ ห้องอาหารโรงแรม |
08.00 น. |
นำท่านเที่ยวชม IPOH OLD TOWN STREET เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง อันเลื่องชื่อของเมืองอีโปร์ งานทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ ERNEST ZACHAREVIC ศิลปินชาวลิทัวเนีย ที่อายุเพียงแค่ 28 ปีต่อเข้าสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้
|
|
|
พร้อมกันนั้นท่านจะได้พบกับตึกสไตล์ COLONIAL โดดเด่นตั้งสง่าอยู่นั่นก็คือ IPOH TOWN HALL ซึ่งในอดีตที่นี่ก็เคยเป็น POST OFFICE ประจำเมือง
|
|
|
นำท่านเที่ยวชม ปราสาท Kellies Castle ปราสาทเก่าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1915 โดยมีเจ้าของเป็นชาว Scottish มีนามว่า William Kellie Smith แต่ตัวปราสาทได้ถูกชะงักการสร้างไปเนื่องจากการเสียชีวิตของเจ้าของปราสาทนั่นเองในปี ค.ศ. 1926
|
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน (3) ณ ร้านอาหาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ คาเมรอนไฮแลนด์ |
บ่าย |
เดินทางถึงคาเมร่อนไฮแลนด์ อาณาจักรท่ามกลางเทือกเขาเหนือน้ำทะเลถึง 4,500 ฟิต เมืองเกษตรกรรม ปลอดสารพิษ เพื่อบริโภคในประเทศและการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย รวมทั้งเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และเป็นถิ่นอาศัยของชนเผ่า ซาไก, เมืองหนาวท่ามกลางทิวเขาแห่งไรชาจนได้รับการขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย
นำท่านชม สวนลาเวนเดอร์ ( Lavender Garden ) ที่ย่าน Kea Farm ที่นี่เป็นสวนสวยด้านในตกแต่งอย่างกิ๊บเก๋มีมุมสวยงามให้เลือกถ่ายรูปกันมากมายไม่ว่าจะเป็นมุมที่นำรองเท้ามาปลูกต้นไม้ มุมตู้ไปรษณีย์ มุมคิตตี้ที่เด็กๆชอบ มุมคิวปิด มุมป้ายเก๋ๆ และมุมไฮไลท์คือมุมแปลงดอกไม้ ด้านหน้าปลูกลาเวนเดอร์ ซัลเวีย บีโกเนีย เป็นแปลงสีม่วง เหลือง แดง ตัดสลับกันอย่างสวยงาม |
|
เที่ยว ชมฟาร์มตะบองเพชรสวยงามและฟาร์มดอกไม้เมืองหนาว |
|
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ(4) ณ ภัตตาคาร ด้วยเมนูขึ้นชื่อของคาเมร่อน สุกี้ สตีมโบ๊ท.
|
|
จากนั้น |
นำท่านเช็คอินเข้าสู่ HERITAGE HOTEL คาเมร่อนไฮแลนด์ ที่พักใจกลางธรรมชาติและขุนเขา พักผ่อนตามอัธยาสัย ราตรีสวัสดิ์
|
วันที่สาม |
คาเมรอน ไฮแลนด์- ตลาดเช้าKEA FARM-ชมไร่ชา-น้ำตก ISKANDA - กัวลาลัมเปอร์ - จัตุรัสเมอร์เดก้า-พระราชวังอิสตาน่าเนอการ่า - TWIN TOWER PETRONUS- PUTRA JAYA-ล่องเรือชมสองฝั่งแม่น้ำมะละกา- jonker street - EQOUTORAIL HOTEL มะละกา |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า(5) ณ ห้องอาหารโรงแรม |
08.00 น. |
นำท่านเที่ยว ชมตลาดเช้าKEA FARM เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสตรอเบอร์และผัดสดๆ
|
|
|
เที่ยวชมฟาร์มผัก, ไร่ดอกไม้ และสวนสตรอเบอร์รี่ ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายรูป
|
|
|
เดินทางถึงคาเมร่อน เที่ยวชมไร่ชาขี้นชื่อ พร้อมจิบชาอุ่นๆ ท่ามกลางไอหนาวคาเมร่อน
|
|
|
เดินทางลงจากยอดเขา เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาที่สวยงาม เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพความสวยงามของน้ำตก ISKANDA ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในมาเลเซีย |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน (6) ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียที่ได้รับการขนานนามว่า
นครอุทยานแห่งแสงสี THE CITY GARDENS OF LIFE
|
|
|
นำท่าน ชมความอลังการของพระราชวังอิสตาน่าเนอการ่า พระราชวังแห่งชาติ สถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดี หรือยังดีเปอร์ตวนอากง พระราชวังแห่งนี้จะเป็นกลุ่มอาคารรูปทรงโดมเชื่อมกับทางหลวงไปยังตัวเมือง และมีถนนทางเข้าพิเศษหลายเส้นทางพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการครอบครองมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 และกลายเป็นเขตพระราชฐานนับตั้งแต่นั้น
|
|
|
นำท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับอาณาจักรเมืองโบราณกลางเมืองหลวงของมาเลเซีย นำท่านท่องเที่ยว
ชม จัตุรัสเมอร์เดก้า เป็นจัตุรัสกลางเมืองหลวงมาเลเซีย อันเป็นสถานที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ของชาติมาเลเซีย เพราะเป็นสถานที่จัดพิธีคืนความเป็นเอกราชให้กับเจ้าของประเทศ หลังจากตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกนานถึง 446 ปี (พ.ศ2054 - 2500 ) เริ่มจากประเทศโปรตุเกส ที่บุกมาทางเรือและเข้ายึด เมืองมะละกา อันเป็นเมืองท่า จากนั้นก็อยู่ภายใต้การปกครองของชาวดัทช์และอังกฤษในเวลาต่อมา จนมาถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2500 มาเลเซียก็ได้อธิปไตยกลับคืนมาจากประเทศอังกฤษ
|
|
|
นำท่านชมและถ่ายภาพด้านนอก TWIN TOWER PETRONUS อดีตตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของ ประเทศมาเลเซีย ออกแบบโดย เซซาร์เปลี ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจ
ของ เมืองสะพานที่ใช้เชื่อมตึกทั้งสองนั้นอยู่ระหว่างชั้น 41 และ 42 |
|
|
นำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ตระการตาของเมืองใหม่ PUTRA JAYA ศูนย์ราชการที่สมบูรณ์แบบ ที่สุด ในเอเชียซึ่งเกิดจากแนวความคิดของอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด สร้างเพื่อใช้เป็นเมือง ศูนย์กลางการบริหารประเทศ หน่วยงานราชการ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ พร้อมนำท่านชมความสวยงามตระการตาของ มัสยิดสีชมพูกลางน้ำ ที่สร้างด้วยหินแกรนิต สีกุหลาบ ชม อาคารรัฐสภาและอาคารศูนย์ราชการต่าง ๆ
|
|
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ (7) ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเที่ยง นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ด่านสะเดา |
|
หลังจากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมสองฝั่งแม่น้ำมะละกา ในอดีต แม่น้ำคือหัวใจสำคัญของการค้าในเมืองมะละกา |
|
|
นำท่านเที่ยวชมย่านถนนคนเดิน jonker street ถนนสายนี้เป็นแหล่งสินค้าเก่าและของโบราณที่มีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลก แม้ว่าคุณไม่ใช่ผู้ชื่นชอบสินค้าเก่าโบราณ แต่ห้ามพลาดที่จะแวะมาสัมผัสบรรยากาศ ณ ถนนคนเดินแห่งนี้ ร้านรวงต่างๆ จะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นและร้านค้าส่วนใหญ่เปิดให้บริการจนถึงเที่ยงคืน |
|
จากนั้น |
นำท่านเช็คอินเข้าสู่ ECO-Tree HOTEL มะละกา เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาสัย ราตรีสวัสดิ์ |
วันที่สี่ |
ตึก Ducth Square - โบสถ์เซนต์ปอลต์ - ป้อมประตูซานติเอโก- สนามบินกัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า(8) ณ ห้องอาหารโรงแรม |
08.00 น. |
เช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมที่พัก นาท่านเที่ยวชม เมืองมรดกโลกเที่ยวเมืองเก่ามะละกา ช่องแคบมะละกานักเดินเรือทั่วโลกทั้งอดีตและปัจจุบันรู้จักกันเป็นอย่างดี รัฐมะละกา ประเทศมาเลย์เซีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมาเลย์ แม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ด้วยคุณสมบัติพิเศษสมกับที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น นครแห่งประวัติศาสตร์ ของชนชาติมาเลเซีย หรือ MALAYSIAS HISTORIC CITY"
นำท่านเก็บภาพกับ ตึก Ducth Square หรือจัตุรัสแดง เป็นจุดเริ่มต้นการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของมะละกา โบสถ์คริสต์หลังนี้สร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในช่วงกลางศตวรรษที่18 โดยใช้อิฐสีชมพูจากฮอลแลนด์เป็นโครงสร้างหลัก ภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยเก้าอี้นั่งฟังเทศน์ตัวยาวที่สร้างด้วยมือแบบดั้งเดิมในสภาพสมบูรณ์ Christ Church Melaka สร้างขึ้นในปี 1741 เป็นที่ระลึกครบรอบ100ปี ที่ดัทช์ปกครองมะละกา และในเวลาต่อมา มีการสร้างน้ำพุหินอ่อน เนื่องในโอกาสพิธีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 65 ปี ของพระราชินีวิคตอเรีย |
|
|
ชม โบสถ์เซนต์ปอลต์ (St. Pauls Chruch) ตั้งอยู่บนเนินเขาเซนต์ปอล สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2064 ปัจจุบันเหลือเพียงผนังสี่ด้านไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เท่านั้น ในยุคที่โปรตุเกสปกครองมะละกา โบสถ์แห่งนี้ชื่อว่า NosaSenhoraแต่เปลี่ยนเป็น St. Paul เมื่อชาวดัตช์เข้ามาปกครอง ด้านหน้ามีรูปปั้นนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ (St. Francis Xavier) ผู้มีชื่อเสียงด้านการเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคและมาเผยแผ่ศาสนาที่มะละกาถึง4ครั้ง
|
|
|
และนำท่าน ป้อมประตูซานติเอโก (Porta De Santiago) อยู่ตรงเชิงเขาเซนต์ปอล สร้างขึ้นโดยชาวโปรตุเกส เป็นส่วนที่ยังหลงเหลือของป้อมเอฟาโมซาที่ถูกทำลายลงในระหว่างสงครามแย่งชิงมะละกาของโปรตุเกสและฮอลันดา จนเมื่อชาวดัตช์ได้เข้าปกครองมะละกา ป้อมเอฟาโมซาได้รับการบูรณะอีกครั้ง แต่ถูกทำลายอีกครั้งด้วยกองทัพเรืออังกฤษ คงเหลือไว้เพียงป้อมประตูซานติเอโก
|
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน (9) ณ ร้านอาหาร |
13.00 น. |
นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เช็คอินกับพนักงานภาคพื้นของสายการบิน พร้อมโหลดสัมภาระ จากนั้นผ่านพิธีตรวจคนออกเมืองประเทศมาเลเซีย |
16.00 น. |
เดินทางกลับกรุงเทพฯโดย สายการบินมาลินโดแอร์ เที่ยวบินที่ OD 522 |
17.00 น. |
ถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความประทับใจ |
สิ่งที่ควรนำไปด้วย ยาประจำตัว,กล้องถ่ายรูป,อุปกรณ์กันแดด,ร่มพับ,กางเกงขาสั้น,รองเท้าที่สวมใส่สบาย
|
หมายเหตุ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการทัวร์ตามความเหมาะสม โดยมิได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ขณะนั้น ความคับคั่งการจราจร สภาพอากาศ โดยยึดถือผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ |
อัตราค่าบริการ |
ราคา (บาท) |
ผู้ใหญ่พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ |
สอบถาม |
เด็กอายุ 3 - 10 ปี (ไม่มีเตียงเสริม) |
สอบถาม |
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ |
สอบถาม |
|
อัตราค่าบริการนี้รวม
ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดพร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น
ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการ หรือ ระดับเทียบเท่า
ค่าอาหาร 9 มื้อ ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
ค่าน้ำหนักสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กิโลกรัมและค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (หากอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป ค่าประกัน อุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง 50%) ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 200,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
|
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
ค่าธรรมเนียมค่าเช้าชมอุทยานสำหรับต่างชาติ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร - เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีดค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง(ถ้ามีการเรียกเก็บ)
ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบิน
ค่า Vat 7% และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (ในกรณีต้องการใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนการชำระเงิน
หากแจ้งภายหลังการชำระเงิน ทางบริษัทฯจะไม่ออกย้อนหลังให้ทุกกรณี)
|
|