ท่านสมาชิกทัวร์ทุกท่านครับ สำหรับท่านที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบันจะมาเที่ยวภาคใต้ โดยเฉพาะทะเลสตูล เกาะหลีเป๊ะ ดำน้ำดูปะการัง แล้วพักผ่อนให้เต็มที่ท่านสะดวกมาขึ้นในปัจจุบันที่ ท่านสามารถเดินทางมาภาคใต้ได้โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง และคุ้มค่าเงินจริงๆ หากท่านมองหาตั๋วเครื่องบินที่เป็นโปโมชั่นแล้วจองไว้ล่วงหน้านานๆ แต่หากท่านจะจองทัวร์ไปเกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตากับทางเที่ยวสนุกทัวร์นั้น นอกจากโปรแกรมวันเดย์ทริปที่ไปเช้ากลับเย็น รบกวนท่านสมาชิกจองล่วงหน้ายาวๆ หน่อยครับ เพราะห้องบนเกาะหลีเป๊ะเต็มเร็วมากครับ ด้วยปัจจุบันความต้องการไปท่องเที่ยวทะเลสตูลมีมากนัก ท่านจะรอช้าอยู่ยัย จองทัวร์เลยกับเที่ยวสนุกทัวร์ นึกโปรแกรมทัวร์ไม่ออกลองดูโปรแกรม หลีเป๊ะลังกาวี 4 วัน 3 คืน ด้านล่างนี้ ถือว่ามาเที่ยวครั้งเดียวได้สองประเทศ |
วันแรก |
เชียงใหม่ – สนามบินหาดใหญ่ |
20.35 น. |
เจ้าหน้าที่ของบริษัทเที่ยวสนุกทัวร์ ให้การต้อนรับคณะ ณ สนามบินหาดใหญ่ หลังจากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ที่พัก ณ ตัวเมืองหาดใหญ่ |
|
|
วันที่สอง |
หาดใหญ่ – ปากบาราสตูล – เกาะตะรุเตา – เกาะไข่ – เกาะหลีเป๊ะ |
06.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (1)
จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ จังหวัดสตูล จังหวัดที่สงบเงียบท่ามกลางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และเมื่อท่านมาแล้วท่านจะหลงไหลในความเป็นสตูล |
08.00 น. |
ถึงท่าเทียบเรือปากบารา ระหว่างรอเพื่อที่จะลงเรือให้ท่านได้มีเวลาในการเตรียมซื้อขนม หรือ จะลองจิบกาแฟ หรือ ที่คนสตูลเรียกว่า โกปี้ กับ โรตี ชาชัก สูตรดังเดิมได้ตามอัธยาศัย จนสมควรแกเวลานำคณะลงเรือเพื่อเดินทางไปยังจุดแรกของทริป ณ เกาะแห่งตามนาน เกาะตะรุเตา ท่านจะได้รับฝังเรื่องราวผ่านการร้อยเรียงของมัคคุเทศก์ผู้ชำนาญในเส้นทางนี้ และท่านจะสบายใจมากขึ้นด้วยทีมสต๊าฟผู้เป็นมิตร |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ชายหาดเกาะตะรุเตา (2) (แบบกล่อง + น้ำดื่ม) |
บ่าย |
นำคณะสู่ เกาะที่เป็นสัญญาลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของสตูล ณ เกาะไข่ เกาะที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักมุขแท้แห่งอันดามันนั้นคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ให้คณะได้ถ่ายรูปและมีเวลาในการลอดซุ้มประตูหินธรรมชาติกลางทะเลที่เมื่อถ่านรูปออกมาแล้วท่านจะไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งท่านได้มายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เกาะไข่ ทะเลสตูล จากนั้นตามเส้นทางจะต้องนำคณะเข้าสู่ เกาะหลีเป๊ะ (เป็นเรือจอย ไม่ได้เหมาลำเรือ แล้วให้ท่านจัดเก็บสัมพาระเข้าที่พักก่อน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นเรือเล็ก เพื่อนำคณะชมปะการังตามเกาะต่างๆ) แต่หากคณะเป็นการเหมากรุ๊ป ทางทีมงานมัคคุเทศก์จะนำคณะไปดำน้ำ ณ จุดต่างๆ เลย (ราคาเหมาลำจะสูงกว่าเรือจอย)
จากนั้นนำคณะชมปะการัง และ เล่นน้ำตามจุดต่างๆ ดังนี้
ชมปะการังหลากสี ณ อ่าวสอง ,ต่อด้วยจุดดำน้ำตื่น ณ เกาะยาง ,และเล่นน้ำ หน้าหาดทรายขาว ณ หมู่เกาะอาดังราวี ชมปะการัง 7 สี ณ ร่องน้ำจาบัง และมานั่งเรียงหินยามเย็น ณ เกาะไข่ ก่อนที่จะเข้าที่พัก ณ เกาะหลีเป๊ะ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องหารหารของรีสอร์ท (3)
พัก ณ รีสอร์ทบนเกาะหลีเป๊ะระดับ 3 ดาวที่มีห้องว่าง และเหมาะสมกับคณะ เนื่องจากการจองห้องบนเกาะหลีเป๊ะต้องจองล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน (ห้องเต็มเร็ว และห้องมีจำนวนจำกัด) รีสอร์ทที่ทางเที่ยวสนุกทัวร์นำลูกค้าเข้าพัก เช่น บันดาหยารีสอร์ท ,วารินทร์บีชรีสอร์ท,เมาร์เท่นรีสอร์ท,กษรินทร์รีสอร์ท |
วันที่สาม |
เกาะหลีเป๊ะ – เกาะลังกาวี – เคเบิ้ลคาร์ – สุสานพระนางมัสุหรี – พิพิธภัณฑ์ ดร.มหาธีย์ |
06.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4) จากนั้นอิสระ กับการเล่นน้ำชายหาดพัทยา |
10.00 น. |
เดินทางลงเรือสู่เกาะลังกาวี |
11.30 น. |
ถึงเกาะลังกาวี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเกาะลังกาวี |
เที่ยง |
บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (5) |
บ่าย |
นำท่านสู่ GOTA MAHSURI สัมผัสเรื่องราวของพระนางเลือดขาว ผู้ที่ขอพรสาปแช่งเกาะลังกาวี ให้โดนคำสาปเจ็ดชั่วโคตร จากนั้นชม พิพิธภัณฑ์ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด ชมของที่ระลึกที่นานาประเทศมอบไว้ให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก อาทิ เครื่องแก้วคริสตัล รถยนต์ ผ้าไหม ฯลฯ |
14.00 น. |
นำท่านเดินทางสู่ยอดเขาฆูนงมัตจิงจัง ที่สูงเป็นอันดับสองของเกาะลังกาวี สนุกสนาน ตื่นเต้นกับการนั่งกระเช้าลอยฟ้า CABLE CAR ชมทัศนียภาพอันงดงามของสองประเทศ ไทย และ มาเลเซีย |
16.00 น. |
เดินทางสู่ตลาด KUAH LANGKAWI เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีนานาชนิด ถ่ายภาพที่ระลึกกับความตระการตาของ “พญาอินทรีหินอ่อน” สัญลักษณ์ประจำเกาะลังกาวีด้วยงบประมาณการสร้างถึง 30 ล้านบาท |
18.30 น. |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (6) |
19.30 น. |
เช็คอินสู่โรงแรมที่พัก ใจกลางเกาะลังกาวี ณ โรงแรมเบลล่า วิสต้าลังกาวีหรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ |
เกาะลังกาวี – ท่าเรือตำมะลัง - สตูล – สนามบินหาดใหญ่ |
06.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7) |
07.30 น. |
นำคณะเดินทางกลับสู่ จังหวัดสตูล ระหว่างรอลงเรือท่านสามารถถ่ายรูปกับนกอินทรีย์และเลือกซื้อของฝากเพิ่มเติมได้ ณ ท่าเรือเจสตี้ฝั่งลังกาวี |
08.30 น. |
นำคณะลงเรือ เพื่อเดินทางสู่ ท่าเรือตำมะลัง จังหวัดสตูล |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(8) |
บ่าย |
นำคณะเดินทางสู่ สนามบินหาดใหญ่
|
14.30 น. |
ส่งคณะขึ้นเครื่อง ณ สนามบินหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพ |
สนใจให้เราจัดทัวร์กรุ๊ปเหมาให้ตามโปรแกรมนี้ โทร.085 384 0228 / 081 415 5955 / 075 502 938 (เที่ยวมาเลเซีย สตูล ตรัง สิงคโปร์ กับคนในพื้นที่ถูกกว่าแน่นอน) |
|
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา |
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และความสวยงาม ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันบริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล อุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองสตูล ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. และห่างจากฝั่งที่ท่าเรือปากบาราประมาณ 22 กม. แนวเขตด้านใต้ของอุทยานฯ ติดกับเส้นเขตแดนใน ทะเล ระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐมาเลเซีย ประกอบไปด้วย หมู่เกาะใหญ่น้อย จำนวนถึง 51 เกาะ มีเนื้อที่ทั้งเกาะและทะเลรวมกันประมาณ 1,490 ตรกม. แบ่งเป็นพื้นที่ทางทะเล 1,260 ตรกม. พื้นที่เกาะ 230 ตรกม. จัดแบ่งออกเป็น หมู่เกาะใหญ่ 2 หมู่เกาะ คือ หมู่เกาะ ตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี เกาะสำคัญขนาดใหญ่มี 7 เกาะ ได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะดง เกาะหลีเป๊ะ เกาะเหล็ก เกาะกลาง เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะตะรุเตา ได้รับการประกาศ เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2517 อัตราค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานฯ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท เด็ก 25 บาทพุทธศักราช 2479 มีการประกาศพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นโจรผู้ร้าย กรมราชทัณฑ์จึงหาสถานที่ที่มีภูมิประเทศเหมาะสม ซึ่งในที่สุดได้เลือกเกาะตะรุเตาและจัดตั้งขึ้นเป็นทัณฑสถาน โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2480 กลุ่มบุกเบิกของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้การนำของขุนพิธานทัณฑทัย ได้ขึ้นสำรวจเกาะตะรุเตาบริเวณอ่าวตะโละอุดังและอ่าวตะโละวาว เพื่อจัดทำเป็น “ทัณฑสถาน”โดยฟันฝ่าอุปสรรคทางธรรมชาตินานัปการเป็นเวลา 11 เดือน งานบุกเบิกจึงสิ้นสุดลง หลังจากเดือนมิถุนายน 2481 เกาะตะรุเตาก็เป็นทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด และนักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินบนเกาะนี้ เพื่อประโยชน์แก่การราชทัณฑ์โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56 หน้า 566 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม2482 ปลายปี พ.ศ.2482 รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมืองจากคดี กบฏบวรเดช (พ.ศ.2476) และกบฏนายสิบ (พ.ศ.2478) จำนวน70 นาย มายังเกาะตะรุเตาซึ่งถูกกักบริเวณไว้ที่อ่าวตะโละอุดัง |
สถานที่ท่องเที่ยวเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา |
เกาะตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
“ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู แปลว่า มีอ่าวมาก ตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากเป็นจุดรวมของ ความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งบนเกาะ และในน้ำ มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ในน้ำก็งดงาม ด้วยกลุ่มปะการังหลากสี สวยสด จนเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วย เกาะน้อยใหญ่จำนวน 51เกาะ รวมทั้งพื้นที่บนเกาะ และทะเลประมาณ 931,250 ไร่ หรือ 1,490 ตารางกิโลเมตรนับเป็นเกาะใหญ่ที่สุด คำว่า "ตะรุเตา" นี้ เพี้ยนมาจาก คำว่า "ตะโละเตรา" ในภาษามลายูแปลว่า มีอ่าวมาก เช่น อ่าวตะโละดาบ อ่าวตะโละอุดัง อ่าวหินงาม ฯลฯ ชื่อเหล่านี้มักจะตั้งตามสภาพที่พบเห็นเป็นส่วนใหญ่ เช่น อ่าวหินงาม มีชายหินที่มีความสวยงามตลอดแนว อ่าวตะโละอุดังมีกุ้งทะเลมาก เป็นต้น บริเวณเกาะตะรุเตามีสถานที่น่าสนใจดังนี้ |
ถ้ำ
ถ้ำที่น่าสนใจมีอยู่หลายแห่ง เช่น ถ้ำดงอยู่ที่อ่าวฤาษี ถ้ำจระเข้ซึ่งเป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงมาก ต้องนั่งเรือไปตามลำคลองมะละกาที่อ่าวพันเต ทางอุทยานฯ จัดเรือไว้บริการพาชมถ้ำต่างๆ |
บ่ออนุบาลเต่าทะเล
เป็นบ่อที่เพาะเลี้ยงลูกเต่าทะเลที่เจ้าหน้าที่อุทยานเก็บรวบรวมมาจากชายหาดของเกาะต่างๆ เต่าที่พบในบริเวณอุทยานมี 3 ชนิดคือ เต่าตะนุ เต่ากระ และเต่าหญ้าตาแดง |
สถานที่ดำน้ำดูปะการัง
สถานที่ดำน้ำในบริเวณเกาะตะรุเตามีหลายแห่ง เช่นที่บริเวณผาปาปิญอง (อุทยานแห่งชาติตั้งชื่อให้ตามชื่อภาพยนตร์เรื่องปาปิญอง ที่มาใช้สถานที่บริเวณนี้ถ่ายทำ) เป็นแหล่งดำน้ำระดับ 15 ฟุต นอกจากนี้ก็มีที่อ่าวสนและเกาะตะเกียง เกาะตะรุเตายังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก เช่น "ศูนย์นิทรรศการ" ซึ่งจัดแสดงรายละเอียดของสิ่งต่างๆ เช่น ซากสัตว์โบราณที่กลายเป็นหิน มีอายุอยู่ในสมัย 400-500 ล้านปีมาแล้ว รวมทั้งปะการังและสัตว์น้ำชนิดต่างๆ |
หาดทราย
เกาะตะรุเตามีชายหาดที่สวยงาม เล่นน้ำได้หลายหาด เช่น หาดทราย อ่าวพันเตมะละกา หน้าที่ทำการอุทยานฯ หาดทรายอ่าวเมาะและหาดทรายอ่าวสน ที่เป็นบริเวณให้นักท่องเที่ยวไปตั้งเต็นท์พักแรม และดำน้ำดูปะการังได้ |
น้ำตก
น้ำตกที่ค้นพบแล้วมีอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกที่เกิดจากลำคลองลูลู มี 2 แห่ง น้ำตกที่เกิดจากคลองตะโละโป๊ะ มี 1 แห่ง ทั้ง 3 แห่งนี้อยู่ในบริเวณอ่าวสน นอกจากนี้ก็มีน้ำตกธารนักโทษที่อ่าวตะโละวาว |
คลองมะละกา
อยู่ที่อ่าวพันเตมะละกา เป็นคลองที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวมากที่สุด สามารถแล่นเรือเข้าไป เที่ยวชมได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร สภาพสองข้างทางเป็นป่าโกงกางสลับกับโขดหินผา น้ำในลำคลองเป็นน้ำกร่อย ในอดีตคลองมะละกาได้ชื่อว่ามีจระเข้ที่ดุร้ายอาศัยอยู่ชุกชุมมาก สิ่งที่น่าสนใจบริเวณคลองมะละกา นอกจากสภาพภูมิประเทศที่สวยงามแล้ว บริเวณต้นน้ำมีถ้ำน้ำดั้นถึง 3แห่ง เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลลอดออกมาจากภายในถ้ำลงสู่ลำคลอง ถ้ำที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ ถ้ำจระเข้ ซึ่งเป็นถ้ำที่ลึกลับวิจิตรสวยงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ได้ทำทางเดินภายในถ้ำและยังมีผู้นำทางทำให้เกิดความสะดวกสบาย
การเดินทางสามารถเดินทางไปโดยติดต่อเรือหางยาวบริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ หรือนั่งเรือไปตามลำคลองมะละกาที่อ่าวพันเต ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดเรือไว้บริการพาชมถ้ำต่างๆ |
สถานที่ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการราชทัณฑ์บนเกาะตะรุเตา
มี 3 แห่ง คือ บริเวณเรือนจำอ่าวตะโละอุดัง ซึ่งเป็นอ่าวใต้สุดของเกาะตะรุเตา และที่เรือนจำอ่าวตะโละวาว ซึ่งเป็นค่ายกักกันนักโทษการเมืองและนักโทษสามัญ ตั้งอยู่ทางทิศใต้และทางฝั่งตะวันออกของเกาะ นอกจากนี้ยังมีทางรถยนต์ประวัติศาสตร์ ขนาด 6 เมตร ที่นักโทษถางไว้เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอ่าวตะโละวาวและอ่าวตะโละอุดัง ระยะทางประมาณ 12 กม. |
หมู่เกาะอาดัง-ราวี
อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. ห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กม. เป็นเกาะที่เป็นสวนแห่งปะการังใต้ท้องทะเล บางบริเวณอยู่ในน้ำตื้นสามารถมองเห็นได้จากผิวน้ำ หมู่เกาะอาดัง-ราวีแห่งนี้ มีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 ตรกม. ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีป่าปกคลุมแลดูเขียวครึ้ม ทางด้านหลังมีน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี คำว่า "อาดัง" มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า "อุดัง" มีความหมายว่า "กุ้ง" เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล นอกจากนี้ก็มีเกาะเล็ก เกาะน้อยอื่นๆ อีก เช่น เกาะดง มีเนื้อที่ 8 ตรกม. เกาะหลีเป๊ะมีเนื้อที่ 4 ตรกม. มักเรียกชื่อรวมของเกาะอาดัง เกาะราวี เกาะดง เกาะหลีเป๊ะ ว่า"หมู่เกาะอาดัง-ราวี" |
หาดทราย
หมู่เกาะอาดัง-ราวี มีหาดทรายที่สวยงามเล่นน้ำได้หลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาดทรายบนเกาะไข่ เกาะไข่อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกใช้เวลาเดินทางจากเกาะตะรุเตาประมาณ40 นาที สิ่งที่สำคัญบนเกาะไข่ ได้แก่ ซุ้มประตูหินธรรมชาติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทะเลรอบๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไป ที่เกาะไข่นี้เป็นเกาะที่เต่าทะเลชอบมาวางไข่ไว้เสมอ และนอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มีปลาชุกมากแห่งหนึ่งด้วย ทางอุทยานไม่อนุญาตให้เข้าพัก
หาดทรายแหลมสน หาดทรายอ่าวโละ หาดทรายอ่าวตะโละรีปา บนเกาะอาดัง หาดทรายขาวบนเกาะราวี ก็สามารถเล่นน้ำได้ (ตามรูปซ้ายมือนี้ ถ่ายจากจุดชมวิวผาชะโด บนเกาะอาดัง เกาะที่เห็นอยู่ไกลๆ คือเกาะหลีเป๊ะ ซ้ายมือของเกาะหลีเป๊ะ เราจะเห็นเกาะ 2เกาะ คือเกาะกระ เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น) |
หมู่เกาะอาดัง-ราวีมีสถานที่น่าสนใจดังนี้
เกาะหินงาม
อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง เกาะนี้เป็นเกาะขนาดเล็ก หินที่พบบนชายหาดมีความกลมเกลี้ยงเป็นมัน มีลวดลายสวยงามมาก เล่ากันว่าหินทุกก้อนที่นี่มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครเก็บออกมา จะต้องมีอันเป็นไป
เกาะหินซ้อน (อยู่บริเวณ เกาะดง)
อยู่ทางซ้ายมือของเกาะหินงาม มีลักษณะแปลกคือ หินก้อนใหญ่ 2 ก้อนเรียงซ้อนกันอยู่ |
สถานที่ดำน้ำดูปะการัง
แหล่งดำน้ำในหมู่เกาะอาดัง-ราวี ที่น่าชมได้แก่ บริเวณเกาะจาบัง อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหินงาม บริเวณอ่าวตะโละรีปา ด้านใต้ของเกาอาดัง บริเวณชายฝั่งด้านทิศใต้ของเกาะราวี แหล่งดำน้ำแหล่งนี้มีทัศนียภาพใต้น้ำสวยงามมาก
อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง มีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่หลายครอบครัว ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง ในเดือน 6 และเดือน 12 ขึ้น13-15 ค่ำ ตลอด 3 วัน 3 คืน ชาวบ้านที่มีเชื้อสายชาวเลจะมารวมกันที่เกาะหลีเป๊ะเพื่อจะจัดงานรื่นเริงร่วมกัน และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวบ้านจะช่วยกันต่อเรือด้วยไม้ระกำ และประกอบพิธีลอยเรือ ด้วยเป็นความเชื่อว่าเป็นการเสี่ยงทายโชคชะตาในการประกอบอาชีพประมง
จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ธรรมชาติของป่าปะการังรอบเกาะ เวิ้งอ่าวสวยงาม หาดทรายขาวละเอียด และอ่าวที่สวยงามคือ อ่าวพัทยา บนเกาะมีที่พักคอยบริการนักท่องเที่ยวทั้งบริเวณหน้าเกาะและด้านหลังเกาะ อัตราค่าที่พักประมาณ 200-300 บาท |
เกาะจาบัง
ปะการังใต้น้ำที่นี่ ต้องยอมรับว่า เป็นจุดที่สวยที่สุดจุดหนึ่งที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นร่องน้ำลึก ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่นั่งเรือมาจะต้องหาทุ่นผูกเรือใต้น้ำ กองหินต่างๆ ใต้น้ำจะถูกปกคลุมไปด้วย ปะการังอ่อนสีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีแดง ดอกไม้ทะเล ดาวขนนก ฟองน้ำครกขนาดใหญ่ และที่เพิ่มสีสันให้สวยงามขึ้น ก็ได้แก่ ฝูงปลาน้อยใหญ่ แวกว่ายกันอยู่ ไม่ว่าเป็น ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง น้ำที่นี่จะไหลเชี่ยว นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำควร มีชูชีพ และเกาะเชือกที่ผูกไว้กับเรือไว้ขณะดำน้ำ |
เกาะยาง (เกาะกาต๊ะ)
อยู่ถัดจากเกาะหินงาม ขึ้นมาทางเหนือ ใช้เวลาวิ่งเรือราว 10 นาที หน้าเกาะมีปะการังเขากวาง ปะการังรูปโต๊ะ ปะการังไฟ ปะการังสมอง ปะการังผักกาด มีระดับความลึกราว 4-10 ฟุต จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น น้ำใส หาดทรายขาวกิ่งตายลงเป็นจำนวนมาก |
|
|
สนใจท่องเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ด้านบน ติดต่อเที่ยวสนุกทัวร์ โทร. 085 384 0228 (คุณนัท) เบอร์ Office โทร.075 502 938 เที่ยวกับคนในพื้นที่รู้จริง รู้ลึก ราคาถูกกว่า |
|
|