ประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันกลายเป็นประเทศที่มีกระแสการท่องเที่ยวที่ทุกคนยากไปสัมผัสความเป็นวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานกันหลายๆ ศาสนาที่มีความลงตัว และสงบมาที่สุดในเอเซีย ภายใต้การรนรงค์ของรัฐบาลประเทศมาเลเซียโดยชูนโยบาย สาตูมาเลเซีย หรือแปลว่า มาเลเซียเป็นหนึ่งเดียว หากท่านต้องการสัมผัสมาเลเซียอย่างถ่องแท้ต้องไปกับเที่ยวสนุกทัวร์ |
กำหนดการเดินทาง โปรแกรมนี้รับจัดคณะตั้งแต่ 20 ท่านขึ้นไปเป็นกรุ๊ปส่วนตังเริ่มจากกรุงเทพฯ สามารถออกเดินทางได้ทุกวัน โปรแกรมนี้ได้เที่ยวครบ มาเลเซีย ปีนัง เก็นติ้ง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ชมตึกปิโตนัส เมืองใหม่ปุตราจาย่า |
วันแรก |
กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ – ปุตราจาย่า – กัวลาลัมเปอร์ - เมอเดก้า - ตึกปิโตนัส |
04.00 น. |
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง สายการบินนกแอร์ |
06.00 น. |
นำคณะเดินทางสู่ อ.หาดใหญ่ โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7102 |
07.25 น. |
คณะเดินทางถึงสนามบินหาดใหญ่ ทีมงานเที่ยวสนุกทัวร์นำคณะขึ้นรถบัสปรับอากาศมาเลเซีย มารับคณะจากสนามบินหาดใหญ่ |
|
จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ด่านจังโหลน ระหว่างทางให้ท่านรับฟังเรื่องราวของประเทศมาเลเซีย จากมัคคุเทศก์ หรือจะเลือกพักผ่อนบนรถได้ตามอัธยาศัย |
09.00 น. |
ถึง ด่านสะเดา นำท่านประทับตราหนังสือเดินทางและผ่านพิธีการตรวจคน เข้าเมืองของประเทศมาเลเซียที่ ด่านบูกิตคาอีตั๊ม ก่อนนำท่านเดินทางผ่านเมือง และรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซีย เช่น จังโหลน จิตรา อลอสตาร์ สุไหงปัตตานี บัตเตอร์เวิร์ธ ไท้ผิง อีโปร์ตันหยงมาลิม ซึ่งทางผ่านท่านสามารถชมทัศนียภาพอันร่มรื่นสอง ข้างทางของประเทศมาเลเซีย หรือจะเลือกพักผ่อนบนรถได้ตามอัธยาศัย |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1) |
|
นำคณะชม “เมืองใหม่ (PUTRA JAYA)” ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองของรัฐบาล และศณย์ราชกาลของประเทศมาเลเซีย นำท่านชมสำนักนายกรัฐมนตรี ชมมัสยิดสีชมพู ซึ่งเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่มากมายในของมัสยิดตกแต่งอย่างงดงามตระการตาผ่านชมกระทรวงต่าง ๆ ผ่านบ้านพักของท่านนายกรัฐมนตรีของท่านดร.มหาธีร์มูฮัมหมัด ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขากลางทะเลสาบที่สวยงาม เชิญท่านถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก สมควรแกเวลา จากนั้นนำคณะสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ “ นครที่ห้อมล้อมด้วยสวนไม้ดอก” ประดับไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ที่สวยงามตระการตาตาม นำท่าน ชมจัตุรัสเมอเดก้า ศูนย์กลางของกรุงกัวลาลัมเปอร์ชมเสาธงที่สูงที่สุดในโลกประมาณ 100 เมตร ชมความงามของสถาปัตยกรรม อาคารสุลต่าลอับดุลซาหมัด,ผ่านชมทัศนียภาพของเมืองหลวง ตึกรัฐสภา มัสยิดหินอ่อน สถานีรถไฟที่เก่าแก่ KL TOWER หอคอยที่สูงเป็นอันดับสี่ของโลก หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านนาฬิกาปลอดภาษี,จากนั้น แวะร้านช็อกโก้แลต แวะนำท่านถ่ายภาพคู่ ตึกคู่แฝดปิโตนัส ( TWIN TOWER ) เก็บไว้เป็นที่ระลึก และให้คณะได้มีเวลาเดินช้อปปิ้ง ณ ห้างSuria ในตึกแฝด |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2) จากนั้นนำคณะเข้าพัก ã ณ CITITEL EXPRESS HOTEL หรือ เทียบเท่า |
วันที่สอง |
พระราชวังแห่งชาติ – แหล่งบันเทิงระดับโลก เก็นติ้งไฮแลนด์เต็มวัน |
เช้า |
บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ (3) ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำคณะ ชมพระราชวังแห่งชาติ พร้อมทั้งถ่ายรูปคู่กับ ทหารม้า ประจำพระองค์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ยอดเขาเก็นติ้ง เมืองในหมอก เก็นติ้งไฮแลนด์ ท่านจะได้สนุกสนานกับการนั่ง กระเช้าลอยฟ้า (SKY WAY ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสามารถวิ่งได้ 6 เมตรต่อวินาทีจากสถานีถึงโรงแรมระยะทาง 3.4 ก.ม. ซึ่งยาวที่สุดในเอเซียระหว่างนั่งกระเช้าท่านจะได้สัมผัสปุยเมฆหมอกอันหนาทึบและอากาศบริสุทธิ์อันสดชื่น จากนั้นมัคคุเทศก์จะพาท่านได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมสวนสนุกทั้งกลางแจ้งและในร่ม สนุกกับเครื่องเล่นมากมายอาทิ รถไฟเหาะตีลังกา รถแข่งโกล์คาร์ต สกายเรนเจอร์ บ้านผีสิงและร้านค้าอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งเหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ทุกเพศทุกวัยให้ท่านได้ถ่ายรูปภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก (บัตรเครื่องเล่นยังไม่รวมในรายการนำเที่ยว) หรือ เลือกเข้าบ่อนคาสิโนได้ตามอัธยาศัย สนุกสนานกับการเสี่ยงโชค และเลือกช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย |
เที่ยง |
อิสระรับประทานอาหารเที่ยง (บนเก็นติ้งมีร้านอาหารให้ท่านเลือกรับประทานได้มากมาย ราคาคิดว่าท่านจ่ายมื้อละไม่เกินคนละ 60 บาทไทยก็อิ่ม) ดังนั้นทางทัวร์คิดว่าให้ท่านทานเองจะถูกกว่าและเป็นการประหยัดค่าทัวร์ด้วย |
บ่าย |
สนุกสนุกสนานกับกิจกรรมบนเก็นติ้งต่อ |
16.30 น. |
ทุกท่านพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ เพื่อเดินทางลงจากเก็นติ้งสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร(4) จากนั้นให้ทุกท่านอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
ณ CITITEL EXPRESS HOTEL หรือ เทียบเท่า |
วันที่สาม |
กัวลาลัมเปอร์ – ปีนัง - ป้อมปืนคอนวาลิส – วัดไท – วัดพม่า – ดิวตี้ฟรี |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ (5) ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. |
จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ รัฐปีนัง เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “ ไข่มุกแห่งโลกตะวันออก ” นครที่รวบรวมความพิเศษที่ผสมผสานโลกตะวันตกและตะวันออกกันได้อย่างกลมกลืน |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (6) |
บ่าย |
ชม ป้อมปืนปราการฟอร์ทคอนวาลิส ซึ่งเป็นสถานที่ยกพลขึ้นบกคั้งแรกของ เซอร์ ฟรานซิลไลทร์ ในปี ค.ศ. 1786 ที่แห่งนี้เป็นป้อมปืน เพื่อป้องกันเมืองในสมัยอดีตของเกาะปีนัง นำคณะเดินทางชม วัดไทย ที่ใหญ่ที่สุดในปีนัง “ วัดไชยมังคลาราม ” ซึ่งมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ตรงข้ามกันให้ท่านได้ชม วัดพม่า ชมสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตา และแวะช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง อาทิ เช่น ขนมเปี๊ยะ บะกุ๊ดแต๋ โสมจีน และร้านช็อคโกแลต ที่มีชื่อเสียงในมาเลเซีย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับหาดใหญ่ |
15.00 น. |
ถึงด่านจังโหลน เพื่อแวะช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ดิวตี้ฟรีจนถึงเวลานัดหมายผ่านพิธีการตรวจประทับตราหนังสือเดินทางทั้งสองประเทศ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ หาดใหญ่ |
18.30 น. |
(เวลาโดยประมาณ)คณะเดินทางถึงถึง หาดใหญ่ โดยสวัสดิภาพ พร้อมทั้งรอยยิ้มและความประทับใจ |
20.55 น. |
นำคณะเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7117 |
22.20 น. |
คณะเดินทางถึง ดอนเมืองโดยสวัสดิภาพฯ |
อัตราค่าบริการ |
ท่านละ 10,500 บาท |
รามดังนี้ |
-
ค่ารถปรับอากาศมาเลเซียนำเที่ยวตลอดการเดินทาง
-
ค่าที่พักระดับ 3 ดาว 2 คืน ตามที่ระบุในรายการนำเที่ยว (พักห้องละ 2 ท่าน)
-
ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการนำเที่ยว (6 มื้อ)
-
ค่าอาหารว่าง + น้ำดื่มบริการระหว่างการเดินทาง
-
ค่าธรรมเนียมการเข้าชม และใช้บริการต่างๆตามที่ระบุในรายการนำเที่ยว
-
ค่าประกันภัยในเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาทรักษาพยาบาล 500,000 บาท
-
ค่าเจ้าหน้าที่มัคคุเทศก์คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
-
ค่ายาเวชภัณฑ์ สามัญประจำบ้านเบื้องต้น
-
ค่าบริการจัดนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
-
ค่าตั๋วเครื่องบิน
|
|
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา |
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และความสวยงาม ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันบริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล อุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองสตูล ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. และห่างจากฝั่งที่ท่าเรือปากบาราประมาณ 22 กม. แนวเขตด้านใต้ของอุทยานฯ ติดกับเส้นเขตแดนใน ทะเล ระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐมาเลเซีย ประกอบไปด้วย หมู่เกาะใหญ่น้อย จำนวนถึง 51 เกาะ มีเนื้อที่ทั้งเกาะและทะเลรวมกันประมาณ 1,490 ตรกม. แบ่งเป็นพื้นที่ทางทะเล 1,260 ตรกม. พื้นที่เกาะ 230 ตรกม. จัดแบ่งออกเป็น หมู่เกาะใหญ่ 2 หมู่เกาะ คือ หมู่เกาะ ตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี เกาะสำคัญขนาดใหญ่มี 7 เกาะ ได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะดง เกาะหลีเป๊ะ เกาะเหล็ก เกาะกลาง เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะตะรุเตา ได้รับการประกาศ เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2517 อัตราค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานฯ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท เด็ก 25 บาทพุทธศักราช 2479 มีการประกาศพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นโจรผู้ร้าย กรมราชทัณฑ์จึงหาสถานที่ที่มีภูมิประเทศเหมาะสม ซึ่งในที่สุดได้เลือกเกาะตะรุเตาและจัดตั้งขึ้นเป็นทัณฑสถาน โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2480 กลุ่มบุกเบิกของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้การนำของขุนพิธานทัณฑทัย ได้ขึ้นสำรวจเกาะตะรุเตาบริเวณอ่าวตะโละอุดังและอ่าวตะโละวาว เพื่อจัดทำเป็น “ทัณฑสถาน”โดยฟันฝ่าอุปสรรคทางธรรมชาตินานัปการเป็นเวลา 11 เดือน งานบุกเบิกจึงสิ้นสุดลง หลังจากเดือนมิถุนายน 2481 เกาะตะรุเตาก็เป็นทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด และนักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินบนเกาะนี้ เพื่อประโยชน์แก่การราชทัณฑ์โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56 หน้า 566 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม2482 ปลายปี พ.ศ.2482 รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมืองจากคดี กบฏบวรเดช (พ.ศ.2476) และกบฏนายสิบ (พ.ศ.2478) จำนวน70 นาย มายังเกาะตะรุเตาซึ่งถูกกักบริเวณไว้ที่อ่าวตะโละอุดัง |
สถานที่ท่องเที่ยวเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา |
เกาะตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
“ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู แปลว่า มีอ่าวมาก ตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากเป็นจุดรวมของ ความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งบนเกาะ และในน้ำ มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ในน้ำก็งดงาม ด้วยกลุ่มปะการังหลากสี สวยสด จนเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วย เกาะน้อยใหญ่จำนวน 51เกาะ รวมทั้งพื้นที่บนเกาะ และทะเลประมาณ 931,250 ไร่ หรือ 1,490 ตารางกิโลเมตรนับเป็นเกาะใหญ่ที่สุด คำว่า "ตะรุเตา" นี้ เพี้ยนมาจาก คำว่า "ตะโละเตรา" ในภาษามลายูแปลว่า มีอ่าวมาก เช่น อ่าวตะโละดาบ อ่าวตะโละอุดัง อ่าวหินงาม ฯลฯ ชื่อเหล่านี้มักจะตั้งตามสภาพที่พบเห็นเป็นส่วนใหญ่ เช่น อ่าวหินงาม มีชายหินที่มีความสวยงามตลอดแนว อ่าวตะโละอุดังมีกุ้งทะเลมาก เป็นต้น บริเวณเกาะตะรุเตามีสถานที่น่าสนใจดังนี้ |
ถ้ำ
ถ้ำที่น่าสนใจมีอยู่หลายแห่ง เช่น ถ้ำดงอยู่ที่อ่าวฤาษี ถ้ำจระเข้ซึ่งเป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงมาก ต้องนั่งเรือไปตามลำคลองมะละกาที่อ่าวพันเต ทางอุทยานฯ จัดเรือไว้บริการพาชมถ้ำต่างๆ |
บ่ออนุบาลเต่าทะเล
เป็นบ่อที่เพาะเลี้ยงลูกเต่าทะเลที่เจ้าหน้าที่อุทยานเก็บรวบรวมมาจากชายหาดของเกาะต่างๆ เต่าที่พบในบริเวณอุทยานมี 3 ชนิดคือ เต่าตะนุ เต่ากระ และเต่าหญ้าตาแดง |
สถานที่ดำน้ำดูปะการัง
สถานที่ดำน้ำในบริเวณเกาะตะรุเตามีหลายแห่ง เช่นที่บริเวณผาปาปิญอง (อุทยานแห่งชาติตั้งชื่อให้ตามชื่อภาพยนตร์เรื่องปาปิญอง ที่มาใช้สถานที่บริเวณนี้ถ่ายทำ) เป็นแหล่งดำน้ำระดับ 15 ฟุต นอกจากนี้ก็มีที่อ่าวสนและเกาะตะเกียง เกาะตะรุเตายังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก เช่น "ศูนย์นิทรรศการ" ซึ่งจัดแสดงรายละเอียดของสิ่งต่างๆ เช่น ซากสัตว์โบราณที่กลายเป็นหิน มีอายุอยู่ในสมัย 400-500 ล้านปีมาแล้ว รวมทั้งปะการังและสัตว์น้ำชนิดต่างๆ |
หาดทราย
เกาะตะรุเตามีชายหาดที่สวยงาม เล่นน้ำได้หลายหาด เช่น หาดทราย อ่าวพันเตมะละกา หน้าที่ทำการอุทยานฯ หาดทรายอ่าวเมาะและหาดทรายอ่าวสน ที่เป็นบริเวณให้นักท่องเที่ยวไปตั้งเต็นท์พักแรม และดำน้ำดูปะการังได้ |
น้ำตก
น้ำตกที่ค้นพบแล้วมีอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกที่เกิดจากลำคลองลูลู มี 2 แห่ง น้ำตกที่เกิดจากคลองตะโละโป๊ะ มี 1 แห่ง ทั้ง 3 แห่งนี้อยู่ในบริเวณอ่าวสน นอกจากนี้ก็มีน้ำตกธารนักโทษที่อ่าวตะโละวาว |
คลองมะละกา
อยู่ที่อ่าวพันเตมะละกา เป็นคลองที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวมากที่สุด สามารถแล่นเรือเข้าไป เที่ยวชมได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร สภาพสองข้างทางเป็นป่าโกงกางสลับกับโขดหินผา น้ำในลำคลองเป็นน้ำกร่อย ในอดีตคลองมะละกาได้ชื่อว่ามีจระเข้ที่ดุร้ายอาศัยอยู่ชุกชุมมาก สิ่งที่น่าสนใจบริเวณคลองมะละกา นอกจากสภาพภูมิประเทศที่สวยงามแล้ว บริเวณต้นน้ำมีถ้ำน้ำดั้นถึง 3แห่ง เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลลอดออกมาจากภายในถ้ำลงสู่ลำคลอง ถ้ำที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ ถ้ำจระเข้ ซึ่งเป็นถ้ำที่ลึกลับวิจิตรสวยงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ได้ทำทางเดินภายในถ้ำและยังมีผู้นำทางทำให้เกิดความสะดวกสบาย
การเดินทางสามารถเดินทางไปโดยติดต่อเรือหางยาวบริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ หรือนั่งเรือไปตามลำคลองมะละกาที่อ่าวพันเต ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดเรือไว้บริการพาชมถ้ำต่างๆ |
สถานที่ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการราชทัณฑ์บนเกาะตะรุเตา
มี 3 แห่ง คือ บริเวณเรือนจำอ่าวตะโละอุดัง ซึ่งเป็นอ่าวใต้สุดของเกาะตะรุเตา และที่เรือนจำอ่าวตะโละวาว ซึ่งเป็นค่ายกักกันนักโทษการเมืองและนักโทษสามัญ ตั้งอยู่ทางทิศใต้และทางฝั่งตะวันออกของเกาะ นอกจากนี้ยังมีทางรถยนต์ประวัติศาสตร์ ขนาด 6 เมตร ที่นักโทษถางไว้เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอ่าวตะโละวาวและอ่าวตะโละอุดัง ระยะทางประมาณ 12 กม. |
หมู่เกาะอาดัง-ราวี
อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. ห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กม. เป็นเกาะที่เป็นสวนแห่งปะการังใต้ท้องทะเล บางบริเวณอยู่ในน้ำตื้นสามารถมองเห็นได้จากผิวน้ำ หมู่เกาะอาดัง-ราวีแห่งนี้ มีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 ตรกม. ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีป่าปกคลุมแลดูเขียวครึ้ม ทางด้านหลังมีน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี คำว่า "อาดัง" มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า "อุดัง" มีความหมายว่า "กุ้ง" เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล นอกจากนี้ก็มีเกาะเล็ก เกาะน้อยอื่นๆ อีก เช่น เกาะดง มีเนื้อที่ 8 ตรกม. เกาะหลีเป๊ะมีเนื้อที่ 4 ตรกม. มักเรียกชื่อรวมของเกาะอาดัง เกาะราวี เกาะดง เกาะหลีเป๊ะ ว่า"หมู่เกาะอาดัง-ราวี" |
หาดทราย
หมู่เกาะอาดัง-ราวี มีหาดทรายที่สวยงามเล่นน้ำได้หลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาดทรายบนเกาะไข่ เกาะไข่อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกใช้เวลาเดินทางจากเกาะตะรุเตาประมาณ40 นาที สิ่งที่สำคัญบนเกาะไข่ ได้แก่ ซุ้มประตูหินธรรมชาติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทะเลรอบๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไป ที่เกาะไข่นี้เป็นเกาะที่เต่าทะเลชอบมาวางไข่ไว้เสมอ และนอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มีปลาชุกมากแห่งหนึ่งด้วย ทางอุทยานไม่อนุญาตให้เข้าพัก
หาดทรายแหลมสน หาดทรายอ่าวโละ หาดทรายอ่าวตะโละรีปา บนเกาะอาดัง หาดทรายขาวบนเกาะราวี ก็สามารถเล่นน้ำได้ (ตามรูปซ้ายมือนี้ ถ่ายจากจุดชมวิวผาชะโด บนเกาะอาดัง เกาะที่เห็นอยู่ไกลๆ คือเกาะหลีเป๊ะ ซ้ายมือของเกาะหลีเป๊ะ เราจะเห็นเกาะ 2เกาะ คือเกาะกระ เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น) |
หมู่เกาะอาดัง-ราวีมีสถานที่น่าสนใจดังนี้
เกาะหินงาม
อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง เกาะนี้เป็นเกาะขนาดเล็ก หินที่พบบนชายหาดมีความกลมเกลี้ยงเป็นมัน มีลวดลายสวยงามมาก เล่ากันว่าหินทุกก้อนที่นี่มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครเก็บออกมา จะต้องมีอันเป็นไป
เกาะหินซ้อน (อยู่บริเวณ เกาะดง)
อยู่ทางซ้ายมือของเกาะหินงาม มีลักษณะแปลกคือ หินก้อนใหญ่ 2 ก้อนเรียงซ้อนกันอยู่ |
สถานที่ดำน้ำดูปะการัง
แหล่งดำน้ำในหมู่เกาะอาดัง-ราวี ที่น่าชมได้แก่ บริเวณเกาะจาบัง อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหินงาม บริเวณอ่าวตะโละรีปา ด้านใต้ของเกาอาดัง บริเวณชายฝั่งด้านทิศใต้ของเกาะราวี แหล่งดำน้ำแหล่งนี้มีทัศนียภาพใต้น้ำสวยงามมาก
อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง มีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่หลายครอบครัว ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง ในเดือน 6 และเดือน 12 ขึ้น13-15 ค่ำ ตลอด 3 วัน 3 คืน ชาวบ้านที่มีเชื้อสายชาวเลจะมารวมกันที่เกาะหลีเป๊ะเพื่อจะจัดงานรื่นเริงร่วมกัน และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวบ้านจะช่วยกันต่อเรือด้วยไม้ระกำ และประกอบพิธีลอยเรือ ด้วยเป็นความเชื่อว่าเป็นการเสี่ยงทายโชคชะตาในการประกอบอาชีพประมง
จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ธรรมชาติของป่าปะการังรอบเกาะ เวิ้งอ่าวสวยงาม หาดทรายขาวละเอียด และอ่าวที่สวยงามคือ อ่าวพัทยา บนเกาะมีที่พักคอยบริการนักท่องเที่ยวทั้งบริเวณหน้าเกาะและด้านหลังเกาะ อัตราค่าที่พักประมาณ 200-300 บาท |
เกาะจาบัง
ปะการังใต้น้ำที่นี่ ต้องยอมรับว่า เป็นจุดที่สวยที่สุดจุดหนึ่งที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นร่องน้ำลึก ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่นั่งเรือมาจะต้องหาทุ่นผูกเรือใต้น้ำ กองหินต่างๆ ใต้น้ำจะถูกปกคลุมไปด้วย ปะการังอ่อนสีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีแดง ดอกไม้ทะเล ดาวขนนก ฟองน้ำครกขนาดใหญ่ และที่เพิ่มสีสันให้สวยงามขึ้น ก็ได้แก่ ฝูงปลาน้อยใหญ่ แวกว่ายกันอยู่ ไม่ว่าเป็น ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง น้ำที่นี่จะไหลเชี่ยว นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำควร มีชูชีพ และเกาะเชือกที่ผูกไว้กับเรือไว้ขณะดำน้ำ |
เกาะยาง (เกาะกาต๊ะ)
อยู่ถัดจากเกาะหินงาม ขึ้นมาทางเหนือ ใช้เวลาวิ่งเรือราว 10 นาที หน้าเกาะมีปะการังเขากวาง ปะการังรูปโต๊ะ ปะการังไฟ ปะการังสมอง ปะการังผักกาด มีระดับความลึกราว 4-10 ฟุต จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น น้ำใส หาดทรายขาวกิ่งตายลงเป็นจำนวนมาก |
|
|
สนใจท่องเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ด้านบน ติดต่อเที่ยวสนุกทัวร์ โทร. 085 384 0228 (คุณนัท) เบอร์ Office โทร.075 502 938 เที่ยวกับคนในพื้นที่รู้จริง รู้ลึก ราคาถูกกว่า |
|
|